นางสุพรรณ นารายณ์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 124 ซึ่งเป็นบ้าน 1ใน 3 ที่ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า สร้างบ้านหลังนี้จากน้ำพักน้ำแรง แต่อยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง พวกตนอยู่บ้านอย่างหวาดผวา เพราะนายโอเล่มักจะเสพยาบ้า พอเมาก็คลั่งอาละวาด ทำลายข้าวของ จุดไฟเผาเสื้อผ้า ก่อนเกิดเหตุ นางหนูเอี้ยอายุ 78 ปี ยายของนายโอเล่วิ่งมาบอกว่านายโอเล่ขี่รถจยย.เข้ามาแล้ว มีอาการคุ้มคลั่งด้วย ให้พวกตนระมัดระวังจากนั้นยายหนูเอี้ย ก็เข้าไปหลบอยู่ในบ้านญาติ ไม่นานนายโอเล่ ก็ขี่รถจยย.ออกจากบ้านไป ต่อมาก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้และมีควันพุ่งออกมาจากชั้น 2 ของบ้านนายโอเล่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และลามมาติดบ้านของตน จึงได้บอกให้สามีขับรถปิกอัพออกไป ตนก็วิ่งไปเก็บสิ่งของในบ้าน แต่ไม่นานเพลิงก็ลุกไหม้ชั้นสองบ้านตนอย่างรุนแรง ซึ่งตนทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนร้องไห้มองบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง
ตนและสามีไม่ใช่คนรวย ทำงานหาเงินสร้างบ้านมาตลอดชีวิต ต้องมาวอดเพราะน้ำมือคนเสพยา ลูกสาวซึ่งเรียนชั้น ม.6 ก็เหลือแต่ชุดนักเรียนเท่านั้น อยากฝากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ขอให้นำบุคคลประเภทนี้ออกจากชุมชน มันอันตรายเช่นนี้ออกไปจากหมู่บ้าน เพราะเกิดเหตุแบบนี้มา 2 ครั้ง เอาออกไปเลย อย่าให้มีอีกด้านนายสมบุญ นารายณ์ อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายโอเล่ ไปเผาจยย. แต่ชาวบ้านช่วยกันดับทัน แต่ก็มาเผาบ้านตัวเอง แล้วลามมาบ้านตน จนวอดทั้งหลังไม่เหลืออะไร รู้สึกจุกอก พูดอะไรไม่ออก เพราะบ้านที่ตนสร้างมากับมือ ต้องวอดไปต่อหน้าต่อตา ยิ่งมาเห็นนายโอเล่ คนก่อเหตุขี่รถจยย.มาดูบ้าน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งโกรธแค้น อยากจัดการปัญหานี้ด้วยตัวเอง ไม่อยากให้นายโอเล่อยู่ในหมู่บ้าน
ต่อมานายชัยวัฒน์ หรือนายโอเล่ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาดูบ้านที่ถูกไฟไหม้ โดยไม่สนใจสายตาของชาวบ้าน ไม่นานก็ขับขี่รถจยย.มาบ้านญาติ และต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.กลางใหญ่ ได้เข้าจับกุมควบคุมตัวนายโอเล่ได้ที่บ้านญาติ ซึ่งอยู่ห่างจาดจุดเกิดเหตุ 50 เมตร และควบคุมตัวไปทำการสอบสวนและดำเนินคดีโดย พ.ต.อ.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย ผกก.สภ.กลางใหญ่ ได้สอบสวนปากคำซึ่งนายโอเล่ ให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง วันละ 1-2 เม็ด ที่เผาเสื้อผ้าเพราะอยากประชดพ่อ แต่ไม่ได้เผาบ้าน ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีวางเพลิงเผาทรัพย์”กับผู้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย ผกก.สภ.กลางใหญ่
นายสดชื่น
อายุ 56 ปี พ่อนายโอเล่ กล่าวว่า ตนมีอาชีพทำสวนยาง
ได้อาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุกับแม่และนายโอเล่ ส่วนภรรยาเสียชีวิตแล้ว
ปกตินายโอเล่จะออกไปช่วยกรีดยาง และขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ
ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.1 ซึ่งตนเคยเห็นลูกเสพยาบ้าในบ้าน เมื่อ 2 ปี
ก่อนลูกเสพยาแล้วมีอาการคลุ้มคลั่ง เคยพาไปบำบัด 2 ครั้ง
แต่ก็มีอาการเหมือนเดิม
และหนักขึ้นชอบเผาเสื้อผ้าตน
คิดว่าลูกโกรธที่ตนไม่โอนที่ดินให้แต่ตนเคยอธิบายว่าที่ดินสวนยางเป็นของยายและป้า
ซึ่งให้เราทำกิน ไม่สามารถแบ่งให้ได้ ทำให้ลูกโกรธและทำประชดมาตลอด
ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน และไม่มั่นใจว่าลูกจะเผาบ้านตัวเอง
หากลูกเผาจริงตนก็ช่วยเหลือลูกไม่ได้ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
และฝากขอโทษชาวบ้านทุกคนที่ลูกทำให้เดือดร้อน