หนุ่มลำปลายมาศสุดช้ำ รู้จักสาวในเฟซบุ๊ก ตกลงคบเป็นแฟนพามาบ้าน สาวออกลายสั่งแม่ผัวรื้อบ้านเก่าบอกจะสร้างใหม่สุดท้าย เป็นมิจฉาชีพมาหลอกเอาเงินคนในหมู่บ้านนับร้อย อ้างพาไปทำงานเกาหลีสูญนับล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2566 ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน หลายตำบล บางรายเดินทางมาจากต่างจังหวัด รวมกว่า 80 คน เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.นภดล แก้วชนะ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กล่าวหา นางสาวสุภรัตน์ ศรีเมฆ หรือมะปราง อายุ 24 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.หนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่า หลอกให้โอนเงินให้เป็นค่าดำเนินการรายละ 8,000-20,000 บาท เพื่อเดินทางไปทำงานประเทศเกาหลีใต้ โดยอ้างจะได้เงินเดือนอย่างน้อยเดือนละ 60,000 บาท พอใกล้วันเดินทางสุดท้ายติดต่อไม่ได้ มีคนถูกหลอกทั้งหมดไม่น้อยกว่า 170 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 1.7 ล้านบาท
นายเกียรติศักดิ์ เหาะสูงเนิน อายุ 23 ปี ชาวบ้านโคกล่าม ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แฟนหนุ่มของมะปราง มิจฉาชีพรายนี้ กล่าวว่า เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา ตัวเองเป็นทหารเกณฑ์ กองทัพเรือ ประจำอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ได้รู้จักกับมะปราง ทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้ติดต่อกันจนกระทั่งนัดไปเจอกันที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มะปราง บอกว่ากำลังเรียนพยาบาล แม่ไปอยู่กับพ่อเลี้ยงที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเจ้าของไร่สตรอว์เบอรี่ แล้วคบหากันเรื่อยๆ มา ต่อมาเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา มะปราง หอบเสื้อผ้ามาอยู่กับตนที่บ้านโคกล่าม อ.ลำปลายมาศ ตนบอกไปว่าบ้านที่อยู่หลังเล็กเหมือนกระต๊อบ มะปราง บอกรักแล้ว "ไม่รังเกียจ" จึงพามาอยู่บ้านกับพ่อแม่ที่บ้าน ส่วนตัวเองก็กลับมาอยู่พร้อมกัน เพราะได้ปลดประจำการพอดี
แฟนหนุ่มของมะปราง
กล่าวต่อว่า จากนั้นมะปราง
ได้ชักชวนคนในหมู่บ้านโคกล่ามและหมู่บ้านใกล้เคียงว่า
ใครจะไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ให้มาสมัครได้ เงินเดือนอย่างน้อย 60,000 บาท
เสียค่าธรรมเนียมรายละ 8,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุและความสามารถ
ค่าเดินทางมีนายจ้างออกให้ก่อน ไม่จำเป็นต้องมีพาสปอร์ต เพราะพ่อเลี้ยงเป็น
ตม.อยู่ประเทศเกาหลี จากนั้นได้มีชาวบ้านมาสมัครเป็นจำนวนมาก
ทั้งในตำบลเดียวกัน ต่างตำบล บางรายเดินทางมาจากต่างจังหวัด
แต่ไม่รู้จำนวนเท่าไร เพราะภรรยาไม่ได้บอก
แต่มีชาวบ้านบางคนไม่เชื่อว่าจะได้ไปทำงานจริงหรือไม่ เพราะเกรงจะถูกหลอก
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นมะปราง ก็บอกว่าแม่จะส่งเงินมาสร้างบ้านให้แม่ โดยจะสร้างเป็นทรงโมเดิร์น ราคาประมาณ 1.5-2 ล้านบาท พร้อมกับสั่งให้พ่อ รื้อบ้านเก่าออกทั้งหมด ด้วยความดีใจ พ่อกับแม่ให้ช่างมาประเมินราคา แล้วทำการรื้อบ้านเก่า ก่อนจะไปทำเชื่อเบิกวัสดุก่อสร้างกับร้านขายวัสดุในตัวอำเภอมาก่อน คิดเป็นเงินประมาณ 120,000 บาท แล้วให้ช่างมาขึ้นโครงเสาเป็นรูปร่างบ้านชัดเจน จนชาวบ้านเริ่มเชื่อว่าเป็น "ของจริง" ก่อนจะมีชาวบ้านมาสมัครไปทำงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นางเกษร ยานสิทธิ์ อายุ 45 ปี แม่นายเกียรติศักดิ์ ว่าที่แม่ผัวมะปราง กล่าวว่า หลังจากลูกสะใภ้บอกให้รื้อบ้านเพื่อสร้างใหม่ รู้สึกภูมิใจที่ได้สะใภ้เป็นคนดี มีน้ำใจ ที่ผ่านมาตั้งแต่มาอยู่กับลูกชาย มะปราง จะพูดเสมอว่าพ่อเลี้ยงเป็นเจ้าของสวน สตรอว์เบอร์รี ที่ประเทศเกาหลี ตอนนี้เจ็บยิ่งกว่าโดนหลอก เพราะจากที่มีบ้านอยู่ดีๆ กลับไม่มีบ้านอยู่ เพราะรื้อออกทั้งหมด เหลือแต่เสาเหล็กที่ตั้งไว้ ทั้งยังต้องเป็นหนี้กับร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และหนี้ค่าช่าง หนี้ร้านค้าที่เซ็นอาหารมาเลี้ยงช่าง
ส่วน นายศุกกิจ ธาตุทอง อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านแจ้ง อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนจะตกลง ญาติที่บุรีรัมย์ ไปชักชวนว่ามีขาใหญ่มาชวนไปทำงานที่เกาหลีใต้ จึงตกลงจ่ายค่าธรรมเนียมที่ว่าไป 8,000 บาท สุดท้ายเรื่องมาแดงตรงที่มีคนที่ถูก น.ส.มะปราง หลอกไปที่สนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 60 คน เพราะมะปราง บอกว่าแม่ที่เกาหลีจะบินมารับ ทำให้ความแตกว่าโดนหลอก เพราะไม่สามารถติดต่อมะปรางได้อีก เท่าที่ทราบตอนนี้มีผู้เสียหายทั้งหมดประมาณ 170 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 1.7-2 ล้านบาท.
{Fullwidth}
